Fathom Bookspace: สถานที่ที่เป็นมากกว่าร้านหนังสือ
ร้านหนังสือฟาธ่อม ร้านหนังสือขนาดหนึ่งห้องแถว เยื้องๆ สน.ทุ่งมหาเมฆ ร้านอันเป็นจุดร่วมของ คุณ ป่าน และ คุณกุ๊กไก่ ที่มีความฝันต้องการเห็นคนใจดีต่อกัน ทั้งส่วนตัว คนใกล้ตัว ชุมชน และ สังคมโดยรวม
ฟาธ่อม บุ๊คเสปซ ถือกำเนิดขึ้น โดยนอกจากจะเป็นร้านหนังสือแล้ว ร้านก็ยังเป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรม และ ครอบครัวไปในตัวด้วย ในช่วงเวลาก่อนโควิด ร้านก็ได้รับการแวะเวียนด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรมเนืองๆ
เมื่อเราเข้าร้านมา จะเจอกับโต๊ะกลางที่เป็นกลุ่มหนังสือมาใหม่ สองข้างโอบล้อมไปด้วยหนังสือเต็มชั้น ร้านมีเนื้อที่พอประมาณ สามารถจัดทั้งโซน วรรณกรรม ปรัชญา/ประวัติศาสตร์การเมือง ศาสนา-จิตใจ หมวดทั่วไป และที่น่าสนใจ ไม่เหมือนใคร เห็นจะเป็นโซนหนังสือภาพและหนังสือสำหรับคุณพ่อคุณแม่ลูกเล็ก
นอกจากนี้ภายในร้านยังมีเปียโนตั้งอยู่ด้วย ในเวลาที่มีแขกมาเยือน หรือมีกิจกรรมต่างๆ ใครๆ ก็สามารถมาเล่นได้ตามใจชอบ ทำให้บรรยากาศภายในร้านมีความครึกครื้นน่าสนุก
หลักจาก โฟลิโอ้กล่าวทักทายคุณป่าน และ คุณกุ๊กไก่ และ ได้รับของขวัญเป็นกาแฟอุ่นๆ การพูดคุยยามบ่ายแก่ก็เริ่มต้นขึ้น
คุณกุ๊กไก่เล่าว่า ร้านฟาธ่อม เปิดมาได้สัก 5 ปีแล้ว ด้วยความตั้งใจข้างต้น โดยส่วนตัวเองเป็นคนที่สนใจเรื่องกระบวนการเรียนรู้ เคยร่วมงานกับ Active Citizen, ละครโรงเล็กในชุมชนเป็นต้น ส่วนคุณป่านก็เป็นคนที่จบด้านสิ่งพิมพ์มาโดยตรง ส่วนตัวก็ยังเป็นบรรณาธิการอิสระด้วย ร้านนี้จึงเป็นส่วนประสม เฉพาะตัวของทั้งสองคน ที่น่าสนใจมาก
หนังสือที่ร้าน ตัวคุณป่านและคุณกุ๊กไก่ก็จะเป็นคนเลือกเอง โดยเลือกตามความชอบของตัวเองโดยหลัก
บริเวณชั้นสองของร้าน จะเป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมของร้าน ในยามปลอดกิจกรรม ตรงนั้นก็เป็นมุมพักผ่อนของนักอ่านที่แวะเวียนมาจับจองมุมสงบของตัว
กิจกรรมที่ฟาธ่อม บุ๊กเสปซ เคยดำเนินกิจกรรมก็มีหลากหลาย ให้เหมาะสำหรับผู้เข้าร่วม จริงๆแล้วผู้เขียนแอบสังเกตว่า เวลาคุยกันเรื่องกิจกรรม ดูคุณกุ๊กไก่ จะออกรสออกชาดมาก และดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ เราเลยขอให้คุณกุ๊กไก่เล่าถึงกิจกรรมที่ร้านเคยจัดบ้าง
ตัวอย่างกิจกรรมที่เคยจัด
วงคุย : เป็นวงเสวนาเล็กๆที่ ชวนคนที่สนใจเรื่องๆนึงในเวลานั้นมาคุยเล่น แบ่งปันมุมมองแก่กัน หนึ่งในนั้นเราจัดเรื่องความรุนแรง และ ชวนตั้งคำถามว่าทำไมคนเราต้องร้ายใส่กัน
ละครนิทาน : กิจกรรมน่ารักๆสำหรับครอบครัว เป็นการเล่านิทานด้วยสื่อการเล่าในแบบต่างๆ เช่นอาจจะเป็นการเล่าผ่านเสียงที่สมจริง ของนักการละคร หรือ ว่าใช้เป็นละครหุ่นเป็นตัวเล่า บางครั้งก็เป็นละครเพลง พ่อแม่ก็มาเล่นและฟังกะลูกด้วยเลย
กิจกรรมเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องเพศในครอบครัว : เป็นกิจกรรมสำหรับพ่อแม่ที่พบว่าตัวเองคุยกับลูกเรื่องเรื่องเพศยาก บางครั้งก็ไม่รู้จะสร้างการพูดคุยยังไง และ หลายๆครั้งก็ไม่ได้คิดว่าจำเป็นต้องพูดคุย กิจกรรมก็จะออกแบบให้ เราๆได้กลับไปนึกย้อนเกี่ยวกับพัฒนาการของร่างกาย และ ประสบการณ์ของเราตั้งแต่ตอนเราเด็ก เช่นว่า ให้พ่อแม่ได้เห็นตัวเองย้อนไปสมัยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายส่วนต่างๆขึ้น หรือว่า ความรู้สึกของการมีแฟนครั้งแรก เมื่อเริ่มพ่อแม่เริ่มเข้าถึงโลกของตัวเองและของเพื่อนๆในวัยเด็กแล้ว ก็จะสามารถที่จะมีความเข้าใจในตัวลูกมากขึ้น และ ก็สามารถแนะนำลูกจากความเข้าใจของลูกได้
ทำไมต้องทำกิจกรรม?
คุณป่านให้เหตุผลว่า คนเรารับ เพื่อรู้ไม่เหมือนกัน เมื่อเราอยากจะสร้างบางอย่างให้เกิดขึ้น เราก็เลยลองหาวิธีเพื่อให้สิ่งที่เราอยากจะสื่อ ไปถึงแต่ละคนในแบบที่เหมาะเขาด้วย บางคนอาจจะสามารถรู้ได้จากการอ่าน บางคนชอบคิดกับตัวเองก็ต้องการสิ่งกระตุ้นอย่างนิทรรศการ หรือ การมีกิจกรรม ก็ทำให้ได้ลงมือทำจริง และ การพูดคุยในวงถก ก็ทำให้เข้าใจมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น
ทำไมถึงต้องหนังสือภาพ?
เนื่องด้วยผู้สัมภาษณ์มีประสบการณ์น้อยมากเกี่ยวกับหนังสือภาพ โดยส่วนตัวเองก็ยังไม่เคยมีหนังสือภาพเลยสักเล่ม พอคุณป่านแนะนำว่าฟาธ่อมมีหนังสือภาพดีๆอยู่หลายเล่ม ตัวผู้สัมภาษณ์เองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ว่าหนังสือภาพนั้นมีคุณค่าอย่างไรกัน ขณะที่พูดคุย คุณกุ๊กไก่ ก็นำหนังสือภาพเล่มแรกก็วางลงมือของผู้สัมภาษณ์ หนังสือเล่มนี้ชื่อว่า WHAT HAPPENS NEXT? เป็นหนังสือภาพผลงานของคุณ Shinsuke Yoshitake หนังสือเป็นภาพน่ารักดูสบายที่วาดเกี่ยวกับ ไดอารี่ที่คุณปู่เสื้อฟ้าเขียนไว้ซึ่งคุณหลานเสื้อเหลืองมาอ่าน ภายหลังจากคุณปู่เสียชีวิตลง เรื่องราวในหลังสือ ทิ้งช่องว่าง ให้เราได้นึก และมีประสบการณ์ตามหลานคนนี้ หลังจากเปิดผ่านต้นจนจบ เพียงสิบกว่าแผ่น หนังสือเล่มนี้ จะสั่นสะเทือนภายในจิตใจของผู้ที่ยอมเปิดใจให้กับมัน ไม่ว่าเราจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
หลังจากผ่านไปจนถึงหน้าสุดท้าย คุณป่านมองหน้าผู้สัมภาษณ์ที่ ดูจะอึ้งๆอยู่นิดๆ พร้อมยิ้มมุมปาก และพูดอย่างกระตือรือร้น ถึงช่องว่างมากมายที่ถูกเปิดไว้เราได้คิดต่อ บางทีมันอาจจะเป็นคำถามคำตอบของเรื่องเล็กๆ ความรู้สึกขำเบาๆในใจ และ บางครั้งมันอาจจะหมายถึงคำถามสำคัญกับข้างในของเรา ที่ได้หลงลืมไปแล้ว ในขณะที่หนังสือปกติจะมีเรื่องราวดำเนินต่อเนื่องไป หนังสือภาพจะทิ้งช่องว่างมากมายให้เราได้ระลึก ณ เวลานั้นเลย มีประสบการณ์กับมัน ณ ตอนนั้นเลย
นอกจาก WHAT HAPPENS NEXT? แล้ว เราก็ได้หยิบหนังสือภาพน่ารักอีกหลายเล่มมาพูดคุยกัน เช่น
เป็ด ความตาย และ ดอกทิวลิป ที่สื่อสารเกี่ยวกับการมีชีวิต และ ความตาย อย่างอ่อนโยน ละมุนละไม ในภาพวาดน้อยหน้า เปิดโอกาสให้เด็กๆได้ประสบกับเหตุการณ์ที่ตัวละครได้ตายลง ซึ่งทำให้ครอบครัวสามารถสร้างการพูดคุยกับลูกๆเกี่ยวกับมันได้
หนังสือภาพน่ารักๆอย่าง มาราธอนแมว11 ตัว ของคุณโนโบรุ บาบะ ที่อัดแน่นไปด้วยแมวน่ารักๆเต็มหน้ากระดาษ ซึ่งเปิดโอกาสให้เด็กๆได้เป็นผู้เล่าเกี่ยวกับมัน แทนที่จะเป็นแค่ผู้รับอย่างเดียว ในขณะที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆไม่อาจจะนึกได้ว่าแมวตัวนั้น ตัวนี้มันทำอะไรอยู่ แต่รับรองว่า เด็กๆจะสามารถเล่าได้เป็นคุ้งเป็นแคว
งานแรกของมิจัง หนังสือคลาสสิคของญี่ปุ่น โดย โยริโกะ ษุษุอิ ที่เล่าเรื่อง ภารกิจไปซื้อนมให้คุณแม่ของเด็กน้อยชื่อมิจัง เป็นเรื่องเล็กๆอันยิ่งใหญ่ของเด็กคนนึง โดยภาพจะเล่าการเดินทางที่ผู้ใหญ่อย่างเรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผ่านสายตาของเด็กๆซึ่ง สำหรับเด็กๆแล้ว มันเป็นการผจญภัยพอตัวเชียวแหละ
---
Folio Brand ถึง Fathom Bookspace
หลังจากได้พูดคุยพบปะกับเจ้าของร้านทั้ง 2 ท่าน เราโฟลิโอรู้สึกยินดีอย่างมากที่จะได้ร่วมงานกันกับร้านหนังสือที่มีความมุ่งมั่นในพลังแห่งการสื่อสาร ให้เข้าลึกถึงจิตใจผู้คน
การเรียนรู้ไม่จำต้องมาจากหนังสือเสมอไป หากแต่อยู่ที่การเข้าใจในตัวตนของเราเอง มองมุมกลับ หยั่งลึกลงไปด้านในจิตใจ ภายในโลกที่วุ่นวายเราจะพบความสุขเล็กๆที่เติมเต็มพลังใจให้แก่เรา
หากใครกำลังต้องการพื้นที่เล็กๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น โฟลิโอขอแนะนำอย่างเต็มใจว่า 'มาที่ Fathom Bookspace' ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
สั่งสินค้า หรือสอบถามข้อมูลได้นะคะ
ช่องทางการรับชมสินค้า https://foliobrand.shop/
ช่องทาง Line@ คลิก