เล่าขาน...เรื่องหนัง หนัง
จากที่เราได้เคยพูดคุยถึงเรื่องหนังในแง่มุมต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากรู้จักเครื่องหนังมากขึ้นกว่านี้แน่นอนใช่ไหมล่ะคะ อย่าพึ่งรีบร้อนไป เรื่องหนังยังมีรายละเอียดอีกมากมายให้ทำความรู้จัก จนเราอาจตกหลุมรักไปโดยไม่รู้ตัวเลยล่ะ
ว่าแต่มีใครจำได้บ้างคะ ว่าเครื่องหนังชิ้นแรกที่เราใช้หรือเรามีเนี่ยมันคืออะไรกันน้า บางคนก็จำได้ดีเพราะว่าใช้มาจนถึงปัจจุบัน ก็มันยังสวยงามและคงทนอยู่หนิ หรือบางคนอาจจำไม่ได้แล้วว่ามีอะไรเป็นเครื่องหนังชิ้นแรก ก็แหม...ทุกวันนี้มีผลิตภัณฑ์เครื่องหนังใหม่ๆ สวยงามและหลากหลายซะขนาดนี้ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องตอบก็ได้ ถามดูเฉยๆ เผื่อมีใครที่เจอเครื่องหนังเป็นเพื่อนคู่ใจแล้ว คราวหน้าจะได้มาแชร์กันบ้าง จะอวดหรือจะแบ่งปันก็ได้นะคะ
ทุกวันนี้หันไปทางไหนก็เจอเครื่องหนังเต็มไปหมด ทั้งเฟอร์นิเจอร์ รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า หรือแม้แต่ของใช้ใกล้ตัวจุกจิก นอกจากนั้นยังมีผลิตภัณฑ์แปลกใหม่และสร้างสรรค์เกิดขึ้นอย่างมากมาย รู้สึกว่าหนังจะยังคงได้รับความนิยมอย่างยาวนานมากเลยนะคะ แล้วเคยมีใครสงสัยไหมว่า มนุษย์เนี่ยค้นพบวิธีการนำหนังสัตว์มาใช้งานตั้งแต่เมื่อไหร่ จะว่าไปแอดมินนี่แหละที่สงสัย ก็เลยลองไปสืบเสาะและศึกษาข้อมูลมา เจอเรื่องราวตื่นเต้นมากมายเลย มนุษย์เนี่ยสุดยอดของผู้ค้นพบจริง ๆ นะคะ
เรื่องราวของการนำหนังสัตว์มาใช้งานเนี่ย ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่สันนิฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาก เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตอนที่มนุษย์รู้จักล่าสัตว์ อยู่รวมกันเป็นกลุ่มและมีการปกครอง มนุษย์ก็เริ่มนำหนังสัตว์ที่ล่าได้มาใช้เป็นเครื่องนุ่งห่มปกปิดร่างกายแล้วค่ะ แต่จะได้ใช้เฉพาะกับหัวหน้าเผ่าหรือคนปกครองกลุ่มเท่านั้นนะคะ เมื่อล่าสัตว์มาได้สักตัวก็จะได้หนังแค่ผืนเดียว โดยจะทำการถลกหนังจากสัตว์ที่ตายแล้ว ผืนหนังคงมีน้ำหนักมากพอควรเลย นี่ถ้าไม่แข็งแรงและมีอำนาจพอคงจะไม่ได้ใส่แน่ ๆ ใช่มั๊ยล่ะคะ มีใครคิดเหมือนกันรึเปล่าน้า
แต่หลังจากนั้นมนุษย์ก็เริ่มมีอารยธรรม มีสมองใหญ่ขึ้น รู้จักปรับตัวและเริ่มทำการเกษตร ก็เริ่มใช้หนังสัตว์ห่อหุ้มร่างกายและเท้าเพื่อป้องกันตัวเอง ส่วนใหญ่มนุษย์จะใช้หนังเพื่อตอบสนองความต้องการเพื่อนุ่งห่ม สร้างที่พักอาศัย พรม ที่รองนอน หรืออย่างสาวชาวอียิปต์โบราณจะได้รับขนสัตว์เป็นรางวัลตอบแทน พวกเธอถือว่าหนังขนสัตว์ เป็นเครื่องประดับอันเลอค่าเสมือนเครื่องเพชรชิ้นงามในยุคปัจจุบันเลยค่ะ นอกจากนั้นก็นำมาทำเป็นอุปกรณ์ป้องกันการต่อสู้ รองเท้า เข็มขัด ทำเป็นใบเรือก็มีมาแล้วนะคะ สุดยอดจริง ๆ
แต่จากบันทึกในประวัติศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของหนังสัตว์เนี่ย คงต้องย้อนกลับไปช่วงปีคริสตศักราช 757 เลยค่ะ เพราะมีการค้นพบเศษซากโบราณวัตถุที่ทำจากหนังแท้ในประเทศอียิปต์ คิดดูว่านานขนาดนั้นหนังยังมีความคงทนและคงสภาพอยู่เลยนะ ชาวกรีกโบราณเริ่มใช้หนังสัตว์เป็นเครื่องนุ่งห่มในช่วงปีพุทธศักราช 657และการใช้หนังสัตว์ได้แผ่ขยายไปยังอาณาจักรโรมัน ต่อมาในยุคกลางชาวจีนจึงได้เรียนรู้ถึงกรรมวิธีในการนำหนังสัตว์มาสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ในยุคนั้น สำหรับในทวีปอเมริกาเหนือชาวอินเดียแดงเป็นผู้ริเริ่มการนำหนังสัตว์มาใช้ก่อนที่คนผิวขาวจะอพยพเข้าทวีปอีกค่ะ จากนั้นมาในทวีปยุโรป เอเชียและอเมริกาเหนือจึงได้เริ่มนำหนังสัตว์มาขึ้นรูป สร้างเป็นผลิตภัณฑ์โดยมีกรรมวิธีในการผลิตเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น โอ้โห...น่าทึ่งจริง ๆ นะคะ
ว่ากันว่างานเครื่องหนังมาเจริญรุ่งเรือง ถึงขีดสุดในยุคกลาง ( ค.ศ.1476 - 1453 ) หรือ ยุคมืด ที่ชาวยุโรปเรียกกันตามประวัติศาสตร์โลกสากลน่าแปลกใจที่ยุคนี้เป็นยุคอารยธรรมและความเจริญหยุดชะงัก แต่เป็นยุคที่งานหนังได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง มีผลทำให้อาชีพช่างหนังและช่างฟอกหนังเจริญสูงสุดถึงขั้นมีการรวมตัวกัน จัดตั้งสมาคมช่างหนังขึ้นเพื่อประโยชน์ของกันและกันตลอดจนรักษามาตรฐานของหนังและฝีมือในยุคนี้ถ้าจะนึกภาพง่าย ๆ คงคิดถึงหนังฮอลลีวูดซึ่งนำเรื่องราวของผู้คนในยุคกลางมาสร้างเป็นภาพยนต์ เช่น หนังเรื่อง " Robinhood " (โรบินฮู้ด เจ้าชายจอมโจร )หรือ เรื่อง "A KNIGHT TALE” ( อัศวินพันธุ์ร็อค ) หลาย ๆ คนคงรู้จักและเคยดูกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ
นอกจากนั้นยังพบหลักฐานว่าชนเผ่าฮิบรูคือชนชาติแรกที่คิดค้นวิธีการฟอกหนังจากพืช (เปลือกต้นโอ๊ค) หรือ "ฝาด"นั่นเอง และมีวิธีที่ชาวเอสกิโมใช้กันมาช้านานในการฟอกหนังอีกอย่างก็คือการถูด้วยไขมันสัตว์ลงบนผิวหนังของสัตว์ จะทำให้หนังนั้นอ่อนนุ่มเครื่องหนังที่ใช้กันในยุคใหม่นี้มีวิวัฒนาการมาจากการค้นพบโดยการลองผิดลองถูกของผู้คนสมัยโบราณ จนมาถึงในยุคนี้ที่มีเทคโนโลยีและนวัตรกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทำให้เครื่องหนังนั้นมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเช่นกัน เรียกได้ว่าเครื่องหนังถือกำเนิดขึ้นพร้อม ๆ กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคต่าง ๆ แอดมินรู้สึกว่า ความเป็นหนังมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านวัตถุและนำมาซึ่งความเจริญของยุคสมัยที่ทำให้เกิดความผูกพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่องหนังอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามงานหนังนั้นมีเสน่ห์ และเอกลักษณ์ในตัวของมันเองอยู่แล้ว ยิ่งดูยิ่งสวยและคลาสสิคที่หลาย ๆ คนชอบที่สุดเห็นจะเป็นความคงทน ซึ่งถ้ารักษาดี ๆ แล้วล่ะก็เครื่องหนังนั้นจะอยู่กับเราตลอดช่วงชีวิตเลยทีเดียวล่ะค่ะตื่นเต้นมากเลยใช่ไหมคะกับเรื่องราวของหนังที่คัดสรรมานำเสนอบทความต่อไปจะเป็นเรื่องหนังในแง่มุมไหนต้องคอยติดตามกันนะคะ แล้วอย่าลืมแบ่งปันความประทับใจของเครื่องหนังคู่ใจให้แอดมินฟังบ้างน้า ยินดีค่ะ ^^
#ขอบคุณบทความบันดาลใจจาก http://hardyleather.blogspot.com
#ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก http://www.leatherresource.com/history.html